
งานวิจัย ใกล้ตัว ผู้หญิงปล่อยให้อ้วน เสี่ยงความจำเสื่อม
ปัจจุบันคนเราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ ให้เป็นไปตามวิถีการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะเรื่องกินที่ต้องอาศัยความรวดเร็วและความเร่งรีบเพื่อให้ทันเวลา นั่นจึงทำให้คนไทยน้ำหนักเกินมาตรฐาน และข้อมูลจากสาธารณสุขยังบอกอีกว่า คนไทยมีภาวะอ้วนลงพุงเพิ่มขึ้นทุกปี
โรคอ้วน ทำให้ผู้หญิงเสี่ยงความจำเสื่อมได้มากขึ้น
ซึ่งภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐานหรือโรคอ้วน มักเป็นผลพวงมาจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ชื่นชอบรับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดส์ อาหารที่มีไขมัน และละเลยการออกกำลังกาย จะมีโอกาสเสี่ยงกับโรคความจำเสื่อมได้มากกว่าคนที่มีพฤติกรรมตรงข้าม โดยประเด็นนี้อ้างอิงมาจากผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Australian National University ในออสเตรเลีย ที่ได้ทำผลสำรวจเชิงวิเคราะห์เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ว่าอาหารแคลอรี่สูง เช่น อาหารฟาสต์ฟู้ดส์เกี่ยวข้องกับโรคสมองเสื่อม เนื่องจากเกิดภาวะอักเสบในร่างกายที่เรียกว่า inflammation นั่นเอง

นอกจากนี้ในไทยเองก็มีผลงานวิจัยเรื่องนี้เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน โดยทางดร.ทพญ.สิริพร ฉัตรทิพากร ผู้เชี่ยวชาญของหน่วยวิจัยทางระบบประสาท ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมสาขาโรคทางไฟฟ้าของหัวใจ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการวิจัยเรื่องภาวะอ้วนมีผลต่อหัวใจอย่างไร และปัจจุบันภาวะอ้วนเพิ่มขึ้นทั่วโลก ในฝั่งตะวันตก 50% ของประชากรเป็นคนอ้วนทั้งหมด ส่วนประเทศไทยก็ไม่ต่างกัน ที่สำคัญความอ้วนยังส่งผลต่อโรคอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน, โรคหัวใจ, โรคหลอดเลือดในสมอง ฯลฯ ทั้งยังพบว่ามีผลต่อสมองด้วย
ความอ้วนส่งผลต่อสมองได้อย่างไร
การทดลองนี้เป็นการทดลองในสัตว์ พบว่า ความอ้วนทำให้เกิดการอักเสบทั่วทั้งร่างกาย (คล้ายกับบทความวิจัยในย่อหน้าแรก) ทั้งยังไปกระตุ้นการทำงานของไมโตคอนเดรีย ที่เป็นออร์แกแนลในเซลล์สมองทำให้ทำงานผิดปกติ การเรียนรู้และความจำลดลง ซึ่งหากปล่อนให้อ้วนต่อไปนาน ๆ ก็จะทำให้เข้าสู่ภาวะสมองเสื่อม หรือคล้าย ๆ กับอาการอัลไซเมอร์นั่นเอง
นอกจากนี้ยังได้มีการรักษาทดลองในสัตว์ ด้วยการพยายามลดความอ้วน ทำให้ผอมลง คือเปลี่ยนอาหารจากที่มีไขมันสูงมาเป็นไขมันปกติ เมื่อลดความอ้วนแล้วทุกอย่างก็ดีขึ้น ทุกอย่างในร่างกายกลับมาเป็นปกติได้ยกเว้นสมอง เพราะสมองที่เสื่อมไปแล้วยากที่จะกลับมารักษาให้เป็นปกติได้ แม้จะน้ำหนักลดลงแล้วก็ตาม
อีกวิธีคือการใช้ยาต้านเบาหวาน ซึ่งดูเหมือนว่าวิธีนี้จะช่วยให้ผอมลงได้แล้ว หากใช้ยาเสริมเข้าไปก็จะช่วยให้สมองดีขึ้นด้วย โดยการทดลองนี้ได้ทำการทดลองทั้งในหญิงและชาย ซึ่งเมื่อแก่ตัวไปแล้วก็จะเสี่ยงต่ออาการสมองเสื่อม แล้วยิ่งอ้วนเข้าไปอีกก็จะทำให้สมองแย่ลงได้

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือในเพศหญิงที่ใช้ยาต้านเบาหวานหรือฮอร์โมนเข้าไปในวัยทอง ปรากฏว่าใช้ได้ผลมากกว่าเพศชาย เนื่องจากเพศชายหากไม่มีฮอร์โมนบวกกับความอ้วน ต่อจะให้ใช้ฮอร์โมนหรือยาต้านเบาหวานก็ไม่ได้ผลนั่นเอง ดังนั้นควรจะต้องหยุดยั้งความอ้วนตั้งแต่วัยหนุ่มสาว
ซึ่งถึงแม้ว่าอาการความจำเสื่อมจะเริ่มแสดงได้อย่างชัดเจนเมื่อมีอายุเลยวัยกลางคนไปแล้ว แต่ทว่าเราก็สามารถป้องกันอาการความจำเสื่อมก่อนวัยอันควร ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และสนใจการออกกำลังมากขึ้น หลีกเลี่ยงการบริโภคแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ ที่สำคัญจะต้องควบคุมน้ำหนักของคุณให้ตรงกับมาตรฐานอยู่เสมอ เลือกใช้ปากกา ลดน้ำหนักเป็นตัวช่วย หรือรับประทานอาหารเสริม รวมไปถึงปรับเปลี่บนพฤติกรรมตามที่บอก มันก็จะดีกับคุณได้
Comments (0)